ด้วยธรรมชาติที่สวยงามผสมผสานกับวัฒนธรรมล้านนาและสีสันของความร่วมสมัยอย่างลงตัว เชียงใหม่จึงเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมากปีละหลายล้านคน กิจกรรมท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ การขึ้นไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพซึ่งเป็นสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวเชียงใหม่ สัมผัสวิถีชีวิตพื้นเมืองและ เลือกซื้อสินค้าแฮนด์เมดเก๋ๆ ที่ถนนคนเดินท่าแพ ชมพันธุ์ไม้นานาชนิดที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์หรืออุทยาน หลวงราชพฤกษ์ รวมไปถึงการแวะช้อป-ชม-ชิม ร้านค้า ร้านอาหารและศิลปวัฒนธรรมบนถนนนิมมานเหมินทร์ นอกจากนี้ การเที่ยวชมธรรมชาติและดอยต่าง ๆ ก็ถือเป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ว่าจะขึ้นไปเหยียบจุดสูงสุดของประเทศไทยบนยอดดอยอินทนนท์ ซึมซับความสวยงามของนาขั้นบันไดม่อนแจ่ม รับลมหนาว พร้อมชมดอกพญาเสือโคร่งที่ดอยอ่างขาง เที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบโฮมสเตย์ที่แม่กำปอง เยี่ยมชมหมู่บ้านม้งที่ดอยปุย และอีกมากมายจังหวัดเชียงใหม่แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 25 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอเชียงดาว อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริม อำเภอสะเมิง อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย อำเภอพร้าว อำเภอสันป่าตอง อำเภอสันกำแพง อำเภอสันทราย อำเภอหางดง อำเภอฮอด อำเภอดอยเต่า อำเภออมก๋อย อำเภอสารภี อำเภอเวียงแหง อำเภอไชยปราการ อำเภอแม่วาง อำเภอแม่ออน อำเภอดอยหล่อ และอำเภอกัลยาณิวัฒนา
เป็นอีกวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงรายที่ตั้งอยู่บนเขาและมีเนินเขารายรอบวัดสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้ คือ ” พบโชคธรรมเจดีย์” รูปทรงแปลกตาลักษณะเป็นทรงแหลมผสมผสานระหว่างศิลปะจีนและล้านนา ภายในเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปและพระอรหันต์ต่างๆ และเป็นที่ประดิษฐาน เจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้จันทร์หอมองค์ใหญ่
พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน สันนิษฐานว่ามี อายุราว 600 ปี พญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1891 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้มาจาก กรุงสุโขทัย ชาวเมืองล้านนามีความเชื่อกัน ว่าการ ได้เดินทางไปสักการบูชากราบไหว้นมัสการองค์พระธาตุแซ่แห้ง หรือชาวล้านนาจะเรียกกันว่า การชูธาตุ แล้วนั้นจะทำได้รับ อานิสงค์อย่างแรงกล้า ทำให้ชีวิตอยู่ดี มีสุข ปราศจากโรคภัยต่างๆ มาเบียดเบียน หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า วัดพระสิงห์ ปี พ.ศ. 1943 พญาแสนเมืองมา ได้อัญเชิญ พระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์ พระพุทธรูปเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์มาประดิษฐานไว้ที่ วัดลีเชียงพระ แห่งนี้ จึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น วัดพระสิงห์ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2483 ในรัชสมัยของ รัชกาลที่ 8 วัดพระสิงห์แห่งนี้ก็ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ ยกฐานะขึ้นเป็น พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิด วรมหาวิหาร เป็น วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 20 นับเป็นวัดไม้ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย มีสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่และงดงาม อีกทั้งยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู โดยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จสิ้นในปีฉลูเช่นเดียวกัน
เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแพร่มาแต่โบราณ และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีขาล มีงานนมัสการพระธาตุในราวเดือน 4 (เดือนมกราคม) ของทุกปี
สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อปี พ.ศ. 2103 เสร็จในปี พ.ศ. 2106 พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา (สมัยพระมหาจักรพรรดิ) และกรุงศรีสัตนาคนหุต (ปัจจุบันคือ เวียงจันทน์สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว)
เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิษณุโลก ภายในวัดเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช หรือ พระใหญ่ พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทย เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมือง และที่ศรัทธาของผู้คนจากทั่วสารทิศวัดแห่งนี้มีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และประติมากรรมที่งดงามยิ่ง ถือได้ว่าเป็นมกดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าของเมืองพิษณุโลก
ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอีสาน พระบรมธาตุที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาของนครพนมมาแต่ โบราณกาล สร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธกาลประมาณ พ.ศ.๘ ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรเจริญรุ่งเรือง ประดิษฐานอยู่บนภูกำพร้าตั้งตระหง่าน อยู่ริมฝั่งโขง
พระมหาธาตุแก่นนครเป็นวัดเก่าแก่ดั้งเดิมของขอนแก่น ตั้งอยู่ในบริเวณ วัดหนองแวง มีอายุมากว่า 200 ปี นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมภายในพระมหาธาตุแก่นนคร ได้ทั้งหมดทั้ง 9 ชั้น ชั้นบนสุดของพระมหาธาตุแก่นนครจะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
เป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสกลนครมาแต่โบราณ ภายในมีรอยพระพุทธบาท 4 พระองค์ เชื่อกันว่าอานิสงส์ในการนมัสการพระธาตุเชิงชุมจะก่อให้เกิดความ เป็นสิริมงคลสูงสุดแก่ตนเองและครอบครัวให้มีความเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดปราศจากอันตราย ดังคำกล่าวที่ว่า “จะมีครั้งไหนที่ได้อานิสงส์มากไปกว่าการได้มาบูชา พระธาตุที่สร้างครอบรอยพระบาทแห่งพระพุทธเจ้าถึง 4 พระองค์”
วัดบูรพาภิราม มีพระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทยคือ พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ประทับยืนเด่นเป็นสง่ามองเห็นได้จากระยะไกล นอกจากนี้องค์พระเจ้าใหญ่ยังเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัด ตามคำขวัญของเมืองร้อยเอ็ดว่า “สิบเอ็ดประตูงาม เรืองนามพระสูงใหญ่ ผ้าไหมสาเกตุ บุญผะเหวดประเพณี มหาเจดีย์ไชยมงคลงามน่ายลบึงพระลานชัย เขตกว้างไกลทุ่งกุลา โลกลือชาข้าวหอมมะลิ”
พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ หรือที่ชาวอุบลเรียกกันว่า “พระธาตุหนองบัว” สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบกึ่งพุทธกาล 25 ศตวรรษ ของพุทธศาสนา ในปี พ.ศ.2500 โดยจำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา ที่ ประเทศอินเดีย สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สร้างในปี พ.ศ. 2539 เพื่อเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 1 ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์ พระบรมราชานุสาวรีย์มีขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริง หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ ประทับบนช้างศึก ฉลองพระองค์แบบนักรบตามขัตติยราชประเพณีโบราณ
เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นหนึ่งในสามของโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของภาคใต้ ได้แก่ เจดีย์พระมหาธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช และพระพุทธไสยาสน์ถ้ำคูหาภิมุข จังหวัดยะลา
วัดธาตุน้อยหรือวัดพระธาตุน้อย ตั้งขึ้นโดยความประสงค์ ของพ่อท่านคล้าย (พระครูพิศิษฐ์อรรถการ) พระเกจิอาจารย์ที่ชาวใต้เลื่อมใสศรัทธาอย่างสูงยิ่งรูปหนึ่ง พ่อท่านคล้ายได้เชื่อถือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวาจา พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น โดยประดิษฐานพระเจดีย์พระสารีริกธาตุและสรีระสังขารพ่อท่านคล้าย ในโลงแก้วประดิษฐานอยู่ในองค์พระเจดีย์ จึงเป็นเจดีย์อนุสรณ์สถานพ่อท่านคล้ายอีกด้วย
เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองภูเก็ต ถ้าใครมาภูเก็ตจะต้องมาแวะนมัสการ หลวงพ่อแช่ม แห่งวัดฉลอง เพื่อเป็นสิริมงคลแต่ตัวเอง อีกทั้งที่วัดฉลองแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ เป็นที่ประดิษฐสถานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกา
วัดพะโคะ หรือ วัดราชประดิษฐาน เป็นวัดที่มีความสำคัญมาทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีศาสนา เป็นที่ประดิษฐานพระเมาลักเจดีย์ ซึ่งเป็นศิลปะสถาปัตยกรรมทางใต้ สมัยกรุงศรีอยุธยา แบบอย่างศิลปะลังกา และเกี่ยวข้องกับตำนานหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด